วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ศาสนาในประเทศลาว

ชาวลาวนับถือพุทธศาสนาประมาณร้อยละ ๕๐ นับถือผีและอื่น ๆ ประมาณร้อยละ ๕๐
นับแต่ลาวเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบการปกครองประชาธิปไตยแผนใหม่ที่ยึดถือทฤษฎีมาร์กซ์ - เลนิน เป็นหลักในการวางรูปการปกครอง ศาสนาคริสต์ถูกกำจัดเป็นอันดับแรก
พุทธศาสนา ทางการยังไม่ค่อยกล้าเข้าไปแตะต้องอย่างชัดแจ้งนัก จึงได้ดำเนินนโยบายให้พระภิกษุสามเณรมีส่วนร่วม ในสังคมนิยมมากขึ้น การจัดงานบุญต่าง ๆ ต้องจัดอย่างง่าย ๆ จะทำใหญ่โตอย่างเดิมไม่ได้ เพราะจะเป็นการสิ้นเปลือง และเสียเวลาในการทำมาหากิน
ลาวมีวัดในพระพุทธศาสนาอยู่ทั่วประเทศประมาณ ๓,๐๐๐ วัด มีพระภิกษุสามเณรอยู่ประมาณ ๑๕,๐๐๐ รูป
ในปี พ.ศ.๒๕๒๒ ทางการลาวได้กำหนดนโยบายทางด้านศาสนาใหม่ที่สำคัญคือ
- จำกัดสิทธิและพิธีทางศาสนาให้เหลือน้อยที่สุด
- ในแต่ละเมืองให้มีวัดได้ไม่เกินสามวัด แต่ละวัดมีพระภิกษุสามเณรได้ไม่เกิน ๑๒ รูป
- การแสดงพระธรรมเทศนา ต้องมีสาระสำคัญ ทั้งตามนโยบายของรัฐ และตามจารีตประเพณีอย่างละเท่า ๆ กัน
- ห้ามพระภิกษุสามเณรรับจตุปัจจัยจากการประกอบพิธีทางศาสนา
คริสตศาสนา ฝรั่งเศสนำเข้าไปเผยแพร่สมัยที่ลาวตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ประชาชนลาวนับถือคริสตศาสนารองลงมาจากพุทธศาสนา เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบคอมมิวนิสต์ คริสตศาสนาได้ถูกกำจัดเป็นอันดับแรกด้วยการขับไล่นักบวชในคริสตศาสนาออกนอกประเทศ โดยกล่าวหาว่า บาทหลวงเป็นพวกสายลับของประเทศจักรวรรดินิยม ต้องขจัดออกไป ส่วนโบสถ์ในคริสตศาสนาก็ใช้เป็นที่ทำการต่าง ๆ สัญลักษณ์ต่าง ๆ ของคริสตศาสนาถูกรื้อถอน และทำลายหมด
ศาสนาและลัทธิอื่น ประชาชนลาวนับถือผีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในหมู่ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ การนับถือผี และบรรพบุรุษของแต่ละเชื้อชาติ แตกต่างกันออกไปตามขนบธรรมเนียมประเพณี ที่สืบทอดกันมา และได้นำมาปะปนกันกับพุทธศาสนาอย่างแยกกันไม่ออก
ในปี พ.ศ.๒๕๒๗ คณะปกครองได้ออกระเบียบ และวิธีปฎิบัติเกี่ยวกับสาสนา เพื่อบีบบังคับยิ่งขึ้นโดยกำหนดให้วัดต้องเสียภาษีให้รัฐวัดละ ๕๐ กีบต่อปี พระภิกษุสามเณรต้องเสียภาษีให้รัฐรูปละ ๑๐ กีบ ต่อเดือน ถาขัดขืนจะได้รับโทษถึงขั้นต้องลาสิกขา ทุกรูปต้องทำงานปลูกผักสวนครัว ไม่ส่งเสริมให้มีการบวชเพิ่มขึ้น ผู้ที่ต้องการบวชต้องขออนุญาตไปยังประธานเมือง ซึ่งคณะเมืองจะเป็นผู้พิจารณา
จารีตประเพณี
วัฒนธรรมจารีต ที่มีการปฎิบัติสืบต่อกันมา เรียกว่า ฮีตสิบสอง คองสิบสี่ ฮีตยี่คองเจียว ฮีตไภ้คองเชย ฮีตผัวคองเมีย
นอกจากบุญประเพณีสิบสองเดือน ที่ปรากฎในฮีตสิบสองแล้ว ชาวลาวยังมีการทำบุญอื่น ซึ่งนับว่าเป็นประเพณีของลาว คู่กับฮีตสิบสองคือ ประเพณีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ประเพณีบุญกองบวชกองหด ประเพณีแต่งงาน (แต่งดอง) ประเพณีบายสีสู่ขวัญ ประเพณีบุญสู่วัวสู่ขวัญควาย ประเพณีวันกรรม (ออกลูก) ประเพณีวันเฮือนดี (ศพคนตาย) ประเพณีผิดผี ประเพณีข่วง (บ่าวสาวลงข่วง) ประเพณีเต้าข่วง (เลี้ยงผี) ประเพณีแฮกนาขวัญ ประเพณีเลี้ยงผีปู่ผีตา ประเพณีเลี้ยงผาตาแฮก และเลี้ยงผีปู่ตา

ที่มา ประเทศลาว 1: http://www1.tv5.co.th/service/mod/heritage/nation/neighbour/lao1.htm , , 24 พ.ค. 53, 17.42 น. พระจิตติเทพ ฌานวโร

virojanaram

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เราเป็นชาวพุทธต้องช่วยกันทนุบำรุงพระพุทธศาสนา ด้วยการเข้าวัดฟังธรรม ขอให้มีเจตนา มีความตั้งจิตตั้งใจ เชื่อผลกรรมที่เราได้กระทำกันไว้ ใครทำกรรมอะไรก็ได้รับกรรมนั้น สมดังพุทธสุภาษิตว่า "ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ" แปลว่า "บุคคลหว่านพืชเข่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดีย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว"